แชร์

ขับรถแล่นมาถึงบริเวณสี่แยกต้องระมัดระวัง

อัพเดทล่าสุด: 29 พ.ค. 2024
268 ผู้เข้าชม

ขับรถแล่นมาถึงบริเวณสี่แยกต้องระมัดระวัง....

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5463/2533

คำพิพากษาย่อสั้น
 รถยนต์คันที่จำเลยที่ 1 ขับแล่นมาถึงบริเวณสี่แยกที่เกิดเหตุก่อนรถยนต์คันที่ พ.ขับซึ่งโจทก์รับประกันภัยไว้ พ.ย่อมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 71(1) โดยต้องให้รถคันที่จำเลยที่ 1 ขับผ่านไปเสียก่อน แต่ พ. กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว เป็นเหตุให้เกิดชนกันขึ้น พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71(1) เป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์จะปกป้องบุคคลอื่นๆ พ.ผู้ฝ่าฝืนกฎหมายเช่นว่านั้นย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าเป็นฝ่ายผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 422

คำพิพากษาย่อยาว
 โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับประกันภัยรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 9ง-1610 กรุงเทพมหานคร จากนายชัยรัตน์ ชัยวิวัฒน์ จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2527 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 3-4935 นครราชสีมา ของจำเลยที่ 2 ในทางการที่จ้างหรือในกิจการเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาท เฉี่ยวชนรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้ได้รับความเสียหาย โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยซ่อมแซมให้แล้ว จึงรับช่วงสิทธิมาฟ้อง ขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เป็นเงิน 52,881.40 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของต้นเงิน 49,192.00 บาทนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

 จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 91-1610 กรุงเทพมหานคร ขณะเกิดเหตุสัญญาประกันภัยสิ้นสุดลงแล้ว จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ เหตุเฉี่ยวชนเกิดจากความประมาทเลินเล่อของคนขับรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้ โจทก์ยังไม่ได้ซ่อมแซมรถยนต์คันดังกล่าว จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

 โจทก์อุทธรณ์

 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

 โจทก์ฎีกา

 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าถนนพาณิชย์เจริญและถนนรามราชซึ่งตัดกันที่สี่แยกที่เกิดเหตุ ต่างเป็นทางเอกเหมือนกัน ดังนั้นผู้ขับขี่รถที่ผ่านทางสี่แยกดังกล่าวจำต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71 (1) และ (2) กล่าวคือ ถ้ามีรถอื่นอยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถในทางร่วมทางแยกนั้นผ่านไปก่อน หรือถ้ามาถึงทางร่วมทางแยกพร้อมกันและไม่มีรถอยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถที่อยู่ทางด้านซ้ายของตนผ่านไปก่อน รถคันที่จำเลยที่ 1 ขับแล่นมาถึงบริเวณสี่แยกที่เกิดเหตุก่อนรถยนต์เก๋งซึ่งโจทก์รับประกันภัยไว้ นายพิศิษฐ์ผู้ขับรถยนต์เก๋งย่อมมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 71 (1) แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 กล่าวคือ ต้องให้รถคันที่จำเลยที่ 1 ขับผ่านไปเสียก่อน แต่นายพิศิษฐ์กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดชนกันขึ้นเช่นนี้ เห็นว่าพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 71 (1) เป็นบทบัญญัติของกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์จะปกป้องบุคคลอื่นๆ นายพิศิษฐ์ผู้ฝ่าฝืนกฎหมายเช่นว่านั้นย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าเป็นฝ่ายผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 422 เหตุที่รถทั้งสองคันเกิดชนกันจึงมิใช่เป็นเพราะความประมาทของจำเลยที่ 1

 พิพากษายืน


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง :
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 422
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 71

ผู้พิพากษา :
เสียง ตรีวิมล
บุญศรี กอบบุญ
สมศักดิ์ วิธุรัติ


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ