แชร์

การนำเอาสถิติค่าใช้จ่ายการซ่อมแซมมาคิดคำนวณ ไม่ถูกต้อง

อัพเดทล่าสุด: 29 พ.ค. 2024
187 ผู้เข้าชม

การนำเอาสถิติค่าใช้จ่ายการซ่อมแซมมาคิดคำนวณ ไม่ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 283/2536

คำพิพากษาย่อสั้น
     การซ่อมแซมความเสียหายของรถไฟในแต่ละขบวน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงาน และค่าควบคุมมากน้อยเพียงใด น่าจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพของความเสียหายและความยากง่ายในการซ่อมแซมการนำเอาสถิติของค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมรถไฟขบวนอื่นมาใช้ในการคิดคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมแซมรถไฟของโจทก์ขบวนที่เกิดเหตุถูกรถยนต์ของจำเลยชนอาจไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงและตามคำพยานของโจทก์ไม่แน่ชัดว่าโจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่กล่าว คิดเป็นเงินจำนวนเท่าใด จึงเห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายอันเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงานและค่าควบคุมให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่ง

คำพิพากษาย่อยาว
     โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2529 จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ม-1370 ฉะเชิงเทรา ของจำเลยที่ 2 ไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง เป็นเหตุให้ชนกับรถไฟขบวนที่ 188 ของโจทก์ ซึ่งแล่นผ่านมาทำให้รถไฟของโจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ทำการซ่อมเสียค่าใช้จ่ายไป 49,484.45 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันทำละเมิดถึงวันฟ้องเป็นค่าดอกเบี้ย 3,711.33 บาทรวมเป็นเงิน 53,195.78 บาท และดอกเบี้ยอัตราเดียวกันจากจำนวนเงิน 49,484.45 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นลูกจ้างและมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1มิได้ขับรถโดยประมาทที่เกิดเหตุมีกอไผ่ขึ้นสองข้างทาง ยาวหลายเส้นซึ่งปิดบังการมองเห็นทางสัญจรของขบวนรถไฟจนหมดสิ้น ถ้าโจทก์จะทำที่กั้นก็ทำได้และป้องกันอุบัติเหตุได้มาก ก่อนเกิดเหตุรถไฟไม่ให้แตรสัญญาณเพื่อขอทาง มีเครื่องหมายให้รถไฟชะลอและระวังแต่ลูกจ้างของโจทก์กลับใช้ความเร็วสม่ำเสมอไม่ชะลอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โจทก์จึงเป็นผู้ร่วมกระทำละเมิด ไม่มีอำนาจฟ้องโจทก์เสียหายไม่เกิน 10,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

โจทก์อุทธรณ์
     ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา
     ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงานและค่าควบคุมที่โจทก์นำสืบ นายไพฑูรย์หัวหน้าแผนกบัญชีโรงงานรถไฟมักกะสันของโจทก์เป็นพยานเบิกความว่า ค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงานคือค่าต้นทุนในการซ่อมแซมรถไฟเช่น ค่าน้ำ ค่ากระแสไฟฟ้าค่าเชื้อเพลิง ค่าใช้เครื่องมือกล ค่าใช้สถานที่และอื่น ๆ คิดคำนวณในอัตราร้อยละ 105.5 ของค่าแรงงานโดยคิดคำนวณตามสถิติของค่าใช้จ่ายที่เคยซ่อมแซมรถไฟขบวนอื่นมาแล้ว และค่าควบคุมคือเงินชดเชยค่าใช้จ่ายบริหารส่วนกลางของการรถไฟคิดคำนวณในอัตราร้อยละ 26 ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น โดยคิดคำนวณทำนองเดียวกับค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงานนั้น เห็นว่า การซ่อมแซมความเสียหายของรถไฟในแต่ละขบวน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงานและค่าควบคุมมากน้อยเพียงใด น่าจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพของความเสียหายและความยากง่ายในการซ่อมแซม การนำเอาสถิติของค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมรถไฟขบวนอื่นมาใช้ในการคิดคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมแซมรถไฟของโจทก์ขบวนที่เกิดเหตุถูกรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ชนอาจไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงและจากคำเบิกความของนายไพฑูรย์พยานของโจทก์ไม่แน่ชัดว่าโจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่กล่าว คิดเป็นเงินจำนวนเท่าใดจึงเห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายในส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงานและค่าควบคุมให้โจทก์เป็นเงิน 5,000 บาท เมื่อรวมกับค่าเสียหายประการอื่นแล้วคิดเป็นค่าเสียหายของโจทก์เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 26,678.04 บาท จำเลยทั้งสองต้องใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวให้โจทก์
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 26,678.04 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438

ผู้พิพากษา
พรชัย สมรรถเวช
ยงยุทธ ธารีสาร
มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ

แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ